ปวดหลังส่วนล่าง อาการกวนใจที่ใคร ๆ ก็เป็นได้
ปวดหลังส่วนล่าง อาการที่มักสร้างความรำคาญใจให้กับคนวัยทำงานและผู้สูงอายุ ลักษณะอาการที่แต่ละคนเป็นอาจแตกต่างกันไป บ้างปวดหลัง บางคนรู้สึกว่ากล้ามเนื้อหลังตึง หลังแข็ง หรือแม้แต่มีอาการปวดร้าวลงขาร่วมด้วย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอาการใด ต่างก็ส่งผลกระทบกับความสุขของชีวิตในแต่ละวัน
อาการปวดหลังส่วนล่าง หากจะถามว่าเกิดจากสาเหตุใด คงไม่สามารถระบุได้อย่างเฉพาะเจาะจง นั่นก็เพราะอาการปวดหลังส่วนล่างเป็นอาการแสดงของหลายโรค แต่หากสรุปออกมาเป็นภาพรวมหลัก ๆ มี 3 ส่วน คือ
- กล้ามเนื้อหลังที่ถูกใช้งานหนัก เช่น ออฟฟิศซินโดรม และเอ็นกล้ามเนื้อหลังอักเสบเฉียบพลัน
- หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม เช่น หมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังเคลื่อน และโพรงประสาทส่วนเอวตีบ แคบ
- โรคอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อและกระดูกสันหลัง เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคระบบทางเดินอาหาร และโรคไต
ปวดแค่ไหนควรไปพบแพทย์
คนแต่ละคนแตกต่างกัน ระดับความปวดก็ต่างกันแม้จะเป็นโรคเดียวกัน เหมือนกับการอดทนต่อความปวดก็ย่อมไม่เหมือนกัน ดังนั้น เมื่อเริ่มมีอาการปวดก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาตั้งเริ่มมีอาการ แต่ถ้าคิดว่าจะดูอาการอีกสักระยะขอให้ระลึกไว้ว่าถ้าเข้าข่ายอาการเหล่านี้ อย่างไรก็ต้องไปพบแพทย์ได้แล้วไม่ควรต้องรออีกต่อไป นั่นก็คือ
- ปวดหลังมากกว่า 3 เดือน
- ปวดรุนแรง แม้พักการใช้งานหลังแล้วก็ตาม
- เริ่มรู้สึกปวดร้าวลงขา มีอาการอ่อนแรง
การตรวจวินิจฉัยปราการสำคัญของการรักษา
กายคตาให้ความสำคัญในทุกขั้นตอนเสมอ การตรวจวินิจฉัยอาการปวดหลังส่วนล่างเพื่อยืนยันโรคจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพราะอาการนี้เป็นอาการแสดงของโรคที่หลากหลาย ดังนั้น นอกจากการตรวจร่างกายแล้ว แพทย์อาจส่งตรวจเพิ่มเติมอื่น ๆ ทั้งการตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจทางรังสีวิทยาร่วมด้วย
เมื่อทราบโรคที่ชัดเจนแล้ว แพทย์จะวางแนวทางการรักษาที่เหมาะสมให้กับผู้ป่วยแต่ละราย โดยการรักษาอาการปวดส่วนล่างของกายคตาจะเน้นที่การรักษาโรคที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อและกระดูกสันหลัง โดยจะให้การรักษาด้วยกายภาพบำบัด และวิธี Regenerative Medicine ควบคู่กัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
การทำกายภาพบำบัด กายคตามีเครื่องมือในการรักษาอาการปวดหลังส่วนล่างหลัก ๆ ดังนี้ การรักษาด้วยคลื่นกระแทก (Shock Wave Therapy) การใช้แสงเลเซอร์พลังงานสูง (High Power Laser) การใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Peripheral Magnetic Stimulation :PMS) การดึงกระดูกสันหลัง (Traction) และสำหรับการรักษาด้วย Regenerative Medicine สามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่ การฉีด (Prolotherapy) การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นของตัวเอง PRP (Platelet Rich Plasma) การฉีดสารเปปไทด์ชีวภาพ (Nucleic acid) และการใช้เซลล์ซ่อมเซลล์ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาเลือกวิธีการรักษา
อาการปวดหลังส่วนล่าง ในอดีตอาจพบว่าเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ แต่ในปัจจุบันกลายเป็นว่าสามารถพบได้ในคนทุกวัยและพบมากในวัยทำงานและวัยสูงอายุ สิ่งหนึ่งก็เพราะไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของคนในสังคม ฉะนั้น จึงอยากให้ทุกคนให้ความสำคัญกับสุขภาพ หากรู้สึกปวดหลัง ปวดเอว หรือมีอาการปวดร้าวลงขา อย่าชะล่าใจ ควรเข้าพบแพทย์ เพื่อตรวจรักษาก่อนโรคที่เป็นจะสร้างผลกระทบกับสุขภาพและคุณภาพการใช้ชีวิตในระยะยาว
..................................