เส้นประสาทอักเสบ

เส้นประสาทอักเสบ เป็นภาวะของเส้นประสาทที่มีสาเหตุใดก็ตามซึ่งมากระทำกับเส้นประสาทจนส่งผลให้เกิดการอักเสบขึ้นมา เช่น ขาดวิตามิน ติดเชื้อ มีก้อนเนื้องอกหรือมะเร็งมากดทับ เส้นประสาทถูกกดทับ และเส้นประสาทมีการอักเสบขึ้นเอง

• กรณีเส้นประสาทมีการกดทับ เช่น ผู้ที่กระดูกสันหลังทับเส้นประสาท ผู้ป่วยจะมีอาการปวดคอร้าวลงแขน ปวดหลังร้าวลงขา มีอาการชา และอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อ 
• กรณีเส้นประสาทอักเสบด้วยตัวของเส้นประสาทเอง เช่น ปลายประสาทอักเสบอาการที่พบได้
  • รู้สึกแปล๊บ ๆ เสียว ๆ  เหมือนโดนเข็มแทง
  • รู้สึกแสบเหมือนโดนพริก
  • รู้สึกเหมือนมีอะไรมาบาด

สำหรับอาการของเส้นประสาทอักเสบพบได้หลายอาการ เนื่องจากมีหลายสาเหตุ แต่สำหรับอาการที่พบส่วนใหญ่ เช่น ชา เจ็บปวดแปล๊บ ๆ อาการอ่อนแรง โดยเส้นประสาทอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยหมอนรองกระดูกสันหลังคอทับเส้นประสาท กระดูกสันหลังทับเส้นประสาท เส้นประสาทข้อมืออักเสบ ปลายประสาทอักเสบ งูสวัด และผู้ที่ทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ขาดวิตามิน และเกิดอาการแทรกซ้อนจากเบาหวาน เป็นต้น

เจาะลึกทุกรายละเอียด

กายคตาให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอน การตรวจร่างกาย ซักประวัติ และตรวจเพิ่มเติมคือสิ่งสำคัญ เนื่องด้วยการอักเสบของเส้นประสาทเกิดได้จากหลากปัจจัย การประเมิน วิเคราะห์โรคจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเราใส่ใจเป็นอย่างมากสำหรับการวางแผนรักษาและเพราะมุ่งหวังให้ทุกคนได้รับการรักษาอย่างถูกต้องตรงกับสาเหตุและอาการที่เป็น

เครื่องมือทางกายภาพบำบัดที่ช่วยรักษาเส้นประสาทอักเสบของทางกายคตา ได้แก่

• การใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (Peripheral Magnetic Stimulation :PMS) ซึ่งช่วยลดปวด ลดอาการชา กระตุ้นกล้ามเนื้อที่อ่อนแรง เร่งการฟื้นตัวของเส้นประสาท กระตุ้นให้มีการซ่อมแซมของเนื้อเยื่อ
• การรักษาด้วยคลื่นกระแทก ( Shock Wave Therapy) นอกจากจะช่วยเรื่องอาการปวด กระตุ้นให้เกิดการบาดเจ็บใหม่บริเวณกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่มีปัญหาเพื่อเกิดกระบวนการซ่อมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ยังช่วยลดปริมาณสารสื่อประสาทที่ส่งสัญญาณปวดและกระตุ้นให้หลั่งสารลดปวดได้ด้วย
• การรักษาด้วยแสงเลเซอร์พลังงานสูง (High Laser Therapy) แสงเลเซอร์สามารถลงผ่านไปยังตำแหน่งที่บาดเจ็บ ทำให้สามารถบำบัดได้ลึกระดับเส้นประสาท จึงช่วยกระตุ้นปลายประสาท กระตุ้นการซ่อมแซมเส้นประสาท ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และทำให้ร่างกายเกิดกลไกการระงับอาการปวด ลดอาการเจ็บปวดที่มีความลึกได้ดี

นอกจากการรักษาด้วยกายภาพบำบัด ยังสามารถรักษาเพื่อฟื้นฟู ซ่อมแซมเซลล์ควบคู่กัน ได้แก่

• การดูแลด้านโภชนาการ ด้วยการเสริมวิตามินตามความเหมาะสม และการให้คำแนะนำเรื่องอาหารเพื่อการรับประทานอาหารที่ครบ 5 หมู่ อย่างเหมาะสม
• การฉีด Prolotherapyการฉีดยาเข้าไปยังบริเวณที่ปวด โดยตัวยาประกอบด้วยน้ำตาลเป็นส่วนผสม ซึ่งตัวยาที่ฉีดจะทำให้เกิดการระคายเคืองเนื้อเยื่อบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะทำให้เกิดการอักเสบเฉียบพลัน โดยการอักเสบนี้จะกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมเนื้อเยื่อใหม่
  • การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นของตนเอง PRP (Platelet Rich Plasma) การฉีด PRP จะช่วยลดความเจ็บปวด ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการซ่อมแซมเซลล์ที่บาดเจ็บ เป็นการรักษาโดยใช้เลือดของผู้ป่วยเองจึงมีความปลอดภัยสูง
  • การฉีดสารเปปไทด์ชีวภาพ (Nucleic acid) ช่วยซ่อมแซมฟื้นฟูเซลล์ของอวัยวะในร่างกาย จึงส่งผลให้เซลล์ของอวัยวะนั้นกลับมาทำงานใหม่ได้แข็งแรงยิ่งขึ้น
  • การใช้เซลล์ซ่อมเซลล์ เป็นการใช้องค์ประกอบของเซลล์ฉีดซ่อมแซมเซลล์ในร่างกาย เพื่อให้เซลล์มีการซ่อมแซมตัวเอง ฟื้นตัวขึ้น มีการแบ่งตัวเพิ่ม และสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมา

การสังเกตร่างกายคือสิ่งสำคัญของการดูแลสุขภาพ เมื่อใดที่รู้สึกถึงความผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ เพราะสุขภาพที่ดี เริ่มต้นได้ด้วยการใส่ใจดูแล

...............................