นิ้วล็อก

พิมพ์งานมากจนนิ้วล็อก เล่นเกมหนักจนนิ้วล็อก สิ่งเหล่านี้คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตของคนในปัจจุบัน เพราะคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน กลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต ทั้งเพื่อใช้ในการทำงาน หรือเพื่อความผ่อนคลาย

นิ้วล็อก (Trigger Finger) จึงเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกับคนที่ใช้งานนิ้วด้วยการงอนิ้วมาก กำนิ้วแน่นมาก เช่น พนักงานคีย์ข้อมูล ผู้ที่ใช้สมาร์ทโฟนทั้งวันเป็นประจำ ผู้ที่เล่นเกมทั้งบนสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ ผู้ที่ถือของหนัก รวมถึงผู้ที่ต้องใช้แรงกำมือบ่อย ๆ อย่าง เชฟ แม่บ้าน เป็นต้น

นิ้วล็อก คือ ภาวะที่มีการอักเสบของเอ็นและปลอกหุ้มเอ็น (Tenosynovitis) บริเวณข้อโคนนิ้ว มีการหนาตัวขึ้นเป็นพังผืด ทำให้ปลอกรัดเอ็นมากขึ้น จึงไม่สามารถงอหรือเหยียดได้ตามปกติ อาจเป็นนิ้วเดียวหรือหลายนิ้ว โดยจะมีอาการปวดบริเวณโคนนิ้วมือ (Metacarpophalangeal Joint) นิ้วเคลื่อนไหวติด สะดุด ต่อมาจะมีการล็อกไม่สามารถงอหรือเหยียดได้เองจึงต้องใช้มืออีกข้างช่วยเหยียดและในที่สุดข้อนิ้วจะยึดติดไม่สามารถกำมือได้สุด

เทคนิคการรักษาและดูแลตัวเองแบบบูรณาการ

การรักษานิ้วล็อกกับกายคตาจะใช้วิธีรักษาแบบไม่ผ่าตัด โดยการทำกายภาพบำบัดเป็นหลัก ควบคู่กับการรักษาแบบบูรณาการที่เน้นดูแลรักษาที่ต้นตอของโรค การดูแลด้านโภชนาการร่วมกับการเสริมวิตามิน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการรักษาเพื่อช่วยกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง ซึ่งเป็นแนวทางการรักษาที่ได้ผลดีกับอาการนิ้วล็อก

สำหรับการรักษาด้วยกายภาพบำบัด สามารถรักษาได้หลายวิธี ดังนี้

  1. การรักษาด้วยคลื่นอัลตราซาวนด์ (Ultrasound Therapy) เพื่อลดปวด กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดปวด ลดการอักเสบที่บริเวณข้อนิ้ว
  2. คลื่นกระแทก (Shock Wave Therapy) ซึ่งจะช่วยสลายพังผืด บรรเทาอาการปวด
  3. เครื่องแม่เหล็กไฟฟ้าช่วยคลายกล้ามเนื้อ (Peripheral Magnetic Stimulation: PMS) เป็นวิธีการกระตุ้นประสาทส่วนปลายด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งพลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสามารถกระตุ้นโดยตรงลงไปถึงชั้นกล้ามเนื้อ เส้นประสาท เนื้อเยื่อ และกระดูก ช่วยคลายกล้ามเนื้อ ยับยั้งอาการ
  4. การใช้แสงเลเซอร์พลังงานสูง (High Power Laser) ช่วยลดอาการปวด ลดการอักเสบบริเวณข้อนิ้ว และช่วยบรรเทาความเจ็บได้ด้วยอีกทางหนึ่ง
  5. การรักษาร่วมกับการดูแลทางโภชนาการ ด้วยการเสริมวิตามินและอาหารที่เหมาะสม

การรักษาแบบบูรณาการ สามารถทำได้ตั้งแต่ การฉีด (Prolotherapy) การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้นของตัวเอง PRP (Platelet Rich Plasma) การฉีดสารเปปไทด์ชีวภาพ (Nucleic acid) และการใช้เซลล์ซ่อมเซลล์ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่าควรต้องรักษาด้วยวิธีใด ซึ่งแต่ละวิธีเน้นเพื่อการซ่อมแซม ฟื้นฟูเส้นเอ็น และเนื้อเยื่อให้มีความแข็งแรงมากขึ้นซึ่งเป็นแนวทางหลักของการรักษาแบบบูรณาการ

Tips การใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้น ห่างนิ้วล็อก

นอกจากการเข้ารับการรักษากับแพทย์แล้ว การดูแลตัวเองด้วยการบริหารข้อมือและนิ้วมือเป็นประจำเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและลดการบาดเจ็บของมือก็เป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตคือสิ่งที่ควรปฏิบัติ อย่างการจำกัดเวลาใช้สมาร์ทโฟน และในบางครั้งอาจนำเทคโนโลยีมาช่วยเพื่อเป็นอีกช่องทางในการลดปัญหานิ้วล็อก เช่น การใช้หูฟังแทนการถือโทรศัพท์เมื่อต้องคุยเป็นเวลานาน ๆ หากต้องพิมพ์ข้อความในสมาร์ทโฟนมาก ๆ ลองใช้ฟีเจอร์ Speech To Text หรือการพูดเพื่อพิมพ์ข้อความยาว ๆ แทน เป็นต้น

ทุกขั้นตอนการรักษากับกายคตา เราให้ความสำคัญกับการรักษาที่ลงลึกถึงต้นตอของปัญหา เราจึงไม่ได้รักษาเพียงแค่ภายนอก แต่ต้องบำรุง และฟื้นฟูจากภายในควบคู่กัน เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายมีความสามารถในการซ่อมแซมตัวเอง และเมื่อทุกบริบทของการรักษาได้รับการตอบสนองที่ดี ปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นก็จะถูกแก้ไขอย่างถูกต้องและตรงจุด


บทความที่เกี่ยวข้อง
อายุมากขึ้น กระดูกสันหลังเสื่อม ระวังโพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ
โพรงกระดูกสันหลังตีบแคบ ปัญหาหลักจากความเสื่อมของหมอนรองกระดูกสันหลังการเสื่อมของหมอนรองกระดูกสันหลัง ไม่ใช่เรื่องของคนสูงอายุ แต่เกิดเพราะอายุที่มากขึ้น
เส้นประสาทอักเสบ
เส้นประสาทอักเสบ เป็นภาวะของเส้นประสาทที่มีสาเหตุใดก็ตามซึ่งมากระทำกับเส้นประสาทจนส่งผลให้เกิดการอักเสบขึ้นมา....
ปวดหลังส่วนล่าง อาการกวนใจที่ใคร ๆ ก็เป็นได้
ปวดหลังส่วนล่าง อาการที่มักสร้างความรำคาญใจให้กับคนวัยทำงานและผู้สูงอายุ ลักษณะอาการที่แต่ละคนเป็นอาจแตกต่างกันไป
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy